"อ.เจษฎ์" สนับสนุนทำกระทงน้ำแข็ง ชี้ไม่ทำให้ปลาตาย

ใกล้ถึงเทศกาลลอยกระทง ประเพณีโบราณของไทยที่ทำเพื่อขอขมาพระแม่คงคา สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน ประเพณีก็ถูกปรับเปลี่ยนให้รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 
โดย รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการและอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โดยระบุว่า

"ลอยกระทงปีนี้ มาฝึกทำกระทงน้ำแข็งกันเถอะครับ ... ถ้าใส่ธูปเทียน ก็ใส่แค่สั้นๆ ดอกไม้ก็ใส่น้อยๆ นะ หรือไม่ใส่เลยได้ยิ่งดีครับ
แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่อง กระทงน้ำแข็งจะทำให้น้ำเย็นเกินไปจนปลาตายนะ เคยลองคำนวณกันแล้ว พบว่าปริมาณน้ำในสระ หรือในแหล่งน้ำธรรมชาติ มันเยอะกว่าน้ำแข็งมหาศาลครับ อุณหภูมิของน้ำแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย
หลังจากเทศกาลลอยกระทง พบปริมาณขยะกระทงจำนวนมาก จากสถิติข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี ของกรุงเทพมหานคร พบปริมาณขยะที่เกิดจากกระทง ที่เก็บได้ใกล้เคียงกันเกือบ 1 ล้านใบของแต่ละปี 
โดยข้อมูลจาก รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการและอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ระบุว่า
ปี พ.ศ. 2558 ปริมาณกระทง รวมทั้งสิ้น 825,614 ใบ เป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ 754,587 ใบ เป็นกระทงทำจากโฟม 71,027 ใบ
ปี พ.ศ. 2559 ปริมาณกระทง รวมทั้งสิ้น 661,935 ใบ เป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ 617,901 ใบ เป็นกระทงทำจากโฟม 44,034 ใบ
ปี พ.ศ. 2560 ปริมาณกระทง รวมทั้งสิ้น 811,945 ใบ เป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ 760,019 ใบ เป็นกระทงทำจากโฟม 51,926 ใบ และทุกปีมีการรณรงค์ 1 กระทง 1 ครอบครัว แต่ขยะก็ยังเยอะเช่นเคย